เมื่อรถคู่ใจของเราถูก หมากัดรถ ขึ้นมาเฉย แล้วเมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้แล้ว เราจะทำอย่างไร จะไปขอให้ใครรับผิดชอบ แล้วจะเคลมประกันได้หรือไม่ น่ากลุ้มใจซะเหลือเกิน

ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนว่าหมากัดรถ ถือเป็นอุบัติเหตุที่ไม่มีคู่กรณี นั่นหมายถึง คู่กรณีจำเป็นต้องเป็นรถยนต์เท่านั้น ซึ่งอีกนัยหนึ่งคือ สุนัขไม่สามารถถือเป็นคู่กรณีได้ เนื่องจากไม่สามารถเอาผิดหรือเรียกร้องค่าเสียหายกับสุนัขได้นั่นเอง

เพราะเงื่อนไขในหมวดการคุ้มครองความเสียหายต่อรถยนต์ ข้อ 4 กรณีความเสียหายอันมิได้เกิดจากการชนหรือคว่ำ หรือกรณีที่เกิดจากการชนแต่ผู้เอาประกันไม่สามารถแจ้งบริษัทประกันให้ทราบถึงคู่กรณีอีกฝ่ายหนึ่งได้เช่น ถูกแกล้ง ขีด ขูด ทุบ รถ หรือ สุนัข แมว ข่วนสีรถ เฉี่ยวกิ่งไม้เป็นรอย ถอยชนเสาเอง สุนัขกัดรถ รวมถึงคู่กรณีไม่มีชีวิต ไม่สามารถระบุวัน เวลา สถานที่ได้ จะต้องจ่ายค่าเสียหายส่วนแรก ให้กับบริษัทประกัน

ความหมายของการเคลมแบบไม่มีคู่กรณีคือ การขับรถชนโดนรั้วบ้าน เฉี่ยวโดนต้นไม้ ถอยชนเสาไฟฟ้า ชนแล้วหนี หรือโดนอะไรก็ตามไม่มีคู่กรณีเคลมประกันได้ รวมถึงสัตว์จรจัดต่าง ๆ สุนัข แมว หนู ที่กัดรถ ข่วนรถ ที่ไม่มีเจ้าของ

กรณีหมากัดรถ ใครรับผิดชอบ

กรณีถูกหมากัดรถ ต้องแบ่งออกเป็น 2 กรณี

1. กรณีที่สุนัขมีเจ้าของ ตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ.2522 ถนนไม่ใช่ที่ทางสำหรับสัตว์ เจ้าของสุนัขต้องป้องกันไม่ให้สุนัขอยู่บนถนน ไม่ควรปล่อยสัตว์เลี้ยงออกที่สาธารณะโดยไม่ควบคุมหรือควบคุมไม่ได้ กรณีนี้เจ้าของสุนัขต้องรับผิดชอบค่าเสียหายให้แก่เจ้าของรถยนต์ที่ถูกหมากัด
2. แต่กรณีที่เป็นสุนัขจรจัด ไม่สามารถถือเป็นคู่กรณีได้ ไม่สามารถเอาผิดหรือเรียกร้องค่าเสียหายกับสุนัขได้นั่นเอง

หมากัดรถ ประกันจ่ายไหม

ในส่วนของประกันภัย หากเจ้าของรถยนต์ทำประกันรถยนต์ชั้น 1 ไว้ ก็สามารถแจ้งเคลมประกันภัยได้แน่นอน ซึ่งตามหลักเจ้าของรถยนต์ต้องจ่ายค่าเสียหายส่วนแรก Excess เป็นจำนวนเงิน 1,000 บาทในการเคลม แต่หากทำประกันภัยประเภทอื่น ๆ ที่ไม่ใช่ประกันภัยชั้น 1 จะไม่สามารถเคลมได้เลย

ขั้นตอนการเคลมประกันชั้น 1 แบบไม่มีคู่กรณี

1. เมื่อเกิดอุบัติเหตุเฉี่ยวชนกับสิ่งกีดขวางต่าง ๆ หรือกรณีถูก หมากัดรถ ให้ผู้เอาประกันรีบโทรแจ้งบริษัทประกันทันที อย่าปล่อยไว้นาน เพื่อจะได้แจ้งประกันว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นที่ไหน เมื่อไหร่ อย่างไร อย่างละเอียด ยิ่งแจ้งเร็วยิ่งเป็นประโยชน์ต่อตัวคุณเอง เพื่อที่จะได้มีหลักฐานต่าง ๆ ที่ใช้ประกอบการแจ้งจะยังคงอยู่ ทำให้มีความชัดเจนว่าเกิดเหตุการณ์นั้นจริง
2. จัดเตรียมเอกสารที่จำเป็นต้องใช้ คือ สำเนาใบอนุญาตขับขี่ของผู้ขับ สำเนาบัตร ประจำตัวประชาชน หรือพาสปอร์ตผู้ขับ สำเนาทะเบียนรถ สำเนากรมธรรม์ สำหรับกรณีที่โดนชนแล้วหนี หากมีสำเนาบันทึกรายงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะช่วยให้ทางประกันดำเนินการตรวจสอบได้สะดวกและง่ายขึ้น โดยบริษัทประกันอาจจะส่งเจ้าหน้าที่มาสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมหรือถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐาน
3. บริษัทประกันจะออกใบเคลม และหมายเลขเคลมให้ พื่อสามารถดำเนินการนำรถไปเข้าอู่ต่อไปตามเงื่อนไขในกรมธรรม์
4. ผู้เอาประกันติดต่อกับศูนย์ซ่อม หรือ อู่รถ เพื่อทำการนัดวันนำรถยนต์เข้าซ่อม
5. นำรถเข้าไปซ่อมตามวัน เวลาที่นัดหมาย
6. เมื่อรถซ่อมเสร็จ ในวันที่มารับรถให้เตรียมเอกสาร ได้แก่ สำเนาใบขับขี่ สำเนาทะเบียนรถ สำเนากรมธรรม์ และเซ็นเอกสารให้เรียบร้อยในวันรับรถด้วย

อ่านเพิ่มเติม : เคลมประกันชั้น 1 แบบไม่มีคู่กรณี ทำยังไง อ่านเพียงไม่กี่นาทีก็เข้าใจ

แจ้งเคลมประกันอย่างไรไม่ให้ประวัติเสีย

สำหรับกรณีการแจ้งเคลมแบบไม่มีคู่กรณี หากเรามีหลักฐานที่ชัดเจนว่าไม่ได้เป็นฝ่ายผิด ประวัติของรถเราจะยังจัดอยู่ในประวัติที่ดี แต่กรณีไม่สามารถระบุคู่กรณีได้ หรือไม่มีคู่กรณีนั้น ประวัติของเราจะเสียทันที แต่ก็มีกรณีที่น่าสนใจคือ ให้พิจารณาจากตอนที่เราแจ้งเคลมว่าเราแจ้งเคลมแบบไหน

1. เคลมสด – การเคลมประกันทันทีเมื่อเกิดเหตุการณ์
2. เคลมแห้ง – การเคลมประกันหลังจากเหตุการณ์ผ่านมาสักพักแล้ว

ซึ่งการเคลมสด หรือเคลมทันทีในช่วงที่กำลังเกิดเหตุการณึ้นมาใหม่ ๆ สด ๆ ทันที มักจะไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม แต่หากการแจ้งเคลมหลังจากเหคุการณ์เกิดขึ้นสักระยะหนึ่งแล้วนั้น และผู้ขับขี่ไม่สามารถจดจำรายละเอียดที่เกิดขึ้นได้

บางกรณีนี้อาจจะต้องเสียค่า Excess หรือค่าเสียหายส่วนแรก โดยเฉพาะการเคลมรอบคันที่ไม่อาจจดจำรายละเอียดที่มาของร่องรอยต่าง ๆ ได้ นอกจากนี้ข้อน่าเสียดายที่สุดคือ อาจมีผลไปถึงส่วนลดประวัติดีและเบี้ยประกันที่อาจได้รับในปีต่อไปอีกด้วย

อ่านเพิ่มเติม : เคลมประกันรถยนต์ไม่มีคู่กรณี เสียส่วนลดประวัติดีในปีถัดไปหรือไม่

เป็นอย่างไรกันบ้างคะสำหรับกรณีหมากัดรถ ที่ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยเสมอไป แต่ก็สามารถเกิดขึ้นได้ ซึ่งพอทราบกันแล้วว่าถ้าเป็นกรณีไม่มีคู่กรณี เป็นสุนัขจรจัด ไม่มีเจ้าของ ก็สามารถเคลมได้ต่อเมื่อทำประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 เท่านั้น

แต่อาจต้องเสียค่าเสียหายส่วนแรกถ้าเป็นการแจ้งเคลมแบบแห้ง และอาจต้องทำใจเสียประวัติดีไปเลย แต่ถ้าโชคดีหน่อยมีเจ้าของรับผิดชอบก็สามารถเคลมประกันได้แบบไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ เลย ไม่เสียประวัติดีด้วย

ดังนั้นจึงจะเห็นได้ว่า การทำประกันภัยรถยนต์นั้นดีจริง ๆ โดยเฉพาะประกันภัยชั้น 1 ที่ถ้าหากสนใจสามารถขอรายละเอียดการทำประกัน ความคุ้มครองต่าง ๆ ได้ที่อีซี่อินชัวร์โบรกเกอร์ประกันภัย หรือ ช่องทางออนไลน์สามารถเข้าไปเช็คค่าเบี้ยประกันภัยด้วยตัวเองก่อนที่ www.easyinsure.co.th ได้ตลอด 24 ชั่วโมง เราชาวอีซี่อินชัวร์โบรกเกอร์ประกันภัย ยินดีต้อนรับและยินดีรับใช้ทุกท่านด้วยหัวใจในงานรักบริการด้านประกันภัยเสมอ

ขอขอบคุณบทความจาก : https://www.easyinsure.co.th/news/?p=5836